ไพฑูรย์ สินลารัตน์.(2534:12) กล่าวว่า ในส่วนนี้ผู้เขียนโครงร่างการวิจัย
ควรเขียนอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่ทำให้ผู้วิจัยเห็นความสำคัญของปัญหาหรือหัวข้อที่จะทำการวิจัย
โดยกล่าวเน้นถึงประเด็นสำคัญ
ๆที่จำเป็นที่มีส่วนเกี่ยวพันกับปัญหาที่จะทำการวิจัยโดยตรง ทั้งนี้ควรจะให้ข้อมูลอ้างอิงตามความเหมาะสมด้วย
เก่ง ภูวนัย (http://blog.eduzones.com/jipatar/85921) กล่าวว่า เริ่มจากการเขียนปูพื้นโดยมองปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ
ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้
มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้
ได้อย่างไร
รวีวรรณ ชินะตระกูล.
(2540:18) กล่าว่วา ผู้วิจัยจะต้องกำหนดประเด็นปัญหา และความสำคัญของปัญหาที่ต้องการศึกษาในการวิจัยให้ชัดเจน
การกำหนดปัญหาที่ต้องศึกษาในการวิจัยให้ชัดเจน การกำหนดปัญหาไว้อย่างชัดเจนช่วยในการวางแผนงานวิจัยได้อย่างดี
ในการเขียนควรกล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ทำวิจัย เพื่อนำไปสู่วัตถุระสงค์ที่ทำการวิจัย
ดังนั้นการเขียนไม่จำเป็นต้องเขียนให้ยืดยาวจนเกินไป
สรุป
ความสำคัญและที่มาของปัญหา คือ
การกล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานและที่มาของปัญหาย และวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ
ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้
มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้
ได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่วัตถุระสงค์ที่ทำการวิจัย ดังนั้นการเขียนไม่จำเป็นต้องเขียนให้ยืดยาวจนเกินไป
อ้างอิง
ไพฑูรย์ สินลารัตน์(2534). การวิจัยทางการศึกษา.การวิจัยทางการศึกษา :
หลักและวิธีการสำหรับ
นักวิจัย. หน้า 380. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รวีวรรณ ชินะตระกูล (2540) . โครงร่างวิจัย.
วิจัยทางการศึกษา. หน้า 41. กรุงเทพ ฯ :
โรงพิมพ์ห้างหุ้น ส่วนจำกัด ภาพพิมพ์.
เก่ง ภูวนัย
(http://blog.eduzones.com/jipatar/85921)ออนไลน์ สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มกราคมคม 2556
โรงพิมพ์ห้างหุ้น ส่วนจำกัด ภาพพิมพ์.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น